ในโลกที่ Social Media เฟื่องฟู หรือการเอาของไปขายตาม E-commerce Platform นั้นสามารถทำได้ง่ายดาย ทำให้หลายๆ คนเริ่มให้ความสำคัญกับการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองน้อยลง
“การทำเว็บไซต์มีต้นทุนที่สูงกว่า แถมทำเสร็จแล้วก็ยังต้องบำรุงรักษา แถมทำเสร็จก็ต้องหาวิธีโปรโมท” เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หลายๆ คนไม่ค่อยลงทุนกับเว็บไซต์
คำถามก็คือ เหตุผลนี้เพียงพอแล้วหรือเปล่าเมื่อเราพูดถึงโลกธุรกิจ?
คำถามที่ว่า “ทำไมต้องมีเว็บไซต์?” คุณทราบคำตอบที่ชัดเจนแล้วหรือยัง?
ถ้าคุณยังไม่เคยมีเว็บไซต์มาก่อน และยังไม่เห็นว่าเว็บไซต์สำคัญยังไงในเมื่อ Social Media ก็เป็นที่นิยม บทความนี้จะให้คำตอบว่าทำไมเว็บไซต์ที่ดีถึงสามารถเป็นขุมกำลังสำคัญของคุณ
หรือถ้าคุณเป็นคนที่มีเว็บไซต์อยู่แล้ว…โดยที่ยังไม่ทราบชัดเจนว่าเว็บไซต์จะสามารถช่วยคุณ โดยเฉพาะในเรื่องการทำธุรกิจได้อย่างไรบ้าง …บทความนี้ก็จะให้คำตอบกับคุณ
แพลตฟอร์มภายนอกเป็นเหมือนบ้านเช่า
แพลตฟอร์ม Social Media ต่างๆ อย่าง Facebook, LINE, Twitter, Instagram นั้นมีคนไทยใช้อยู่มากมาย นั่นทำให้ทุกคนเข้ามาเพราะเชื่อว่ามีลูกค้าอยู่มากมาย แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปอีกขั้น คุณจะรู้ว่า มันไม่ใช่แค่ลูกค้าหรอกที่จะเพิ่มขึ้นมา คู่แข่งของคุณเองก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาลด้วย เพราะ การเริ่มต้นซื้อขายผ่านช่องทาง Social Media นั้นสามารถทำได้ง่ายมาก
ค่า Reach บน Facebook จากที่น้อยลงมาเรื่อยๆ (โดยเฉลี่ยแล้ว ในปี 2016 Facebook Reach นั้นน้อยลงประมาณ 52% จากปีก่อนหน้า) ในอนาคตมันจะยิ่งน้อยลงอีก รวมถึง Social อื่นๆ ด้วย
เพราะแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ได้เกิดมาเพื่อคุณหรือธุรกิจของคุณเพียงคนเดียว ทุกๆ อย่างเกิดการแย่งส่วนแบ่งกันกับคนอื่นๆ มากมาย แถมแพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเมื่อไรอย่างไร เขาก็ทำได้ เพราะมันเป็นสินทรัพย์ของเขา
อ่านเพิ่มเติม: เหตุผลที่คุณไม่ควรพึ่งแต่โซเชียลมีเดียในการทำธุรกิจ
ลดความเสี่ยง (และเพิ่มพลัง) ด้วย Inbound Marketing
การมีฐานทัพของตัวเองในพื้นที่ที่เราปรับแต่งควบคุมทุกอย่างเองได้ จึงเป็นทางเลือกที่น่าคิด เพราะช่วยลดความเสี่ยง แถมถ้าหากทำดีๆ อาจจะช่วยเพิ่มพลังมากมายไม่แพ้ Social ไหนๆ อีกต่างหาก
…ฐานทัพที่ว่าคือ เว็บไซต์
…ส่วนการทำให้เว็บไซต์เกิดมูลค่า มีแนวคิดที่เรียกว่า “Inbound Marketing” เข้ามามีบทบาทเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
Inbound Marketing คืออะไร
โดยปกติแล้วเวลาพูดถึงการทำการตลาดให้กับอะไรบางอย่าง เรามักจะพูดกันว่าเราต้องการ ‘โปรโมท’ หรือต้องการให้มี ‘โฆษณา’ สิ่งนั้นออกไปให้ได้มากๆ สารต่างๆ ที่นักการตลาดต้องการบอก พวกเขาจะส่งมันออกไปยังสื่อและช่องทางต่างๆ เพื่อเข้าหาผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาบนโทรทัศน์ บทวิทยุ หรือ บนหน้าหนังสือต่างๆ ก็ดี เราเรียกวิธีการตลาดแบบดั้งเดิมนี้ว่า “Outbound Marketing”
ในขณะที่ “Inbound Marketing” คือการมองว่าช่องทางของตนเองนั้นคือสินทรัพย์ ทำช่องทางนั้นให้มีคุณภาพ น่าจดจำ น่าดึงดูด น่าบอกต่อ เพื่อให้ผู้รับสารอยากเข้ามาหาเราเอง แทนที่เราจะต้องออกไปตามช่องทางอื่นๆ นอกจากนี้หัวใจสำคัญของแนวคิด ไม่ใช่เรื่องทราฟฟิก (Traffic) เท่านั้น แต่เป็นเรื่องการทำให้เป้าหมายของเราบรรลุผล โดยแผนภาพที่สมบูรณ์ (Inbound Framework) จะเป็นการออกแบบกลยุทธ์เพื่อสานสัมพันธ์ผู้ชมเว็บไซต์ (Visitors) ให้สามารถกลายเป็นผู้มุ่งหวัง (Leads) หรือลูกค้า (Customers) ได้ต่อในอนาคต
อ่านเพิ่มเติม: Inbound Marketing ทำไมเราจึงเรียกว่าเป็นวิถีการตลาด ‘แบบจอมยุทธ์’
บทบาทของเว็บไซต์ที่ดีกับการทำ Inbound Marketing
คอนเซปต์ของ Inbound Marketing ไม่ได้ปิดกั้นว่าจะต้องเป็นช่องทางไหน แต่ในทางปฏิบัติ เว็บไซต์นับเป็นองค์ประกอบสำคัญองค์ประกอบหนึ่งของ Use Case การทำ Inbound Marketing ให้เห็นผล สาเหตุก็เพราะความสามารถของเว็บไซต์ในเรื่องต่างๆ เหล่านี้ เช่น
- ความน่าเชื่อถือ
แม้จะทำไม่ยาก แต่ก็มีการจดทะเบียนและติดตามได้ เว็บไซต์จึงเป็นเหมือนนามบัตรบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มความน่าเชื่อถือโดยเฉพาะสำหรับคนทำธุรกิจ สังเกตดูโปรไฟล์ต่างๆ บน Social Media มักจะมีช่องให้ใส่เว็บไซต์เสมอ เพราะเป็นช่องทางที่เป็นกลาง
- มีอิสระในการปรับแต่ง
แพลตฟอร์มต่างๆ ถูกดีไซน์ออกมาให้ทำเรื่องบางเรื่องได้ดี ปรับแต่งเรื่องบางเรื่องได้บ้าง แต่เว็บไซต์โดยเฉพาะเว็บไซต์ที่ Custom Made จะปรับได้อิสระกว่า ไม่ว่าจะเป็น UI/UX หรือฟีเจอร์การทำงาน
- เพื่อทำให้ลูกค้า “ค้นหา” คุณเจอบนโลกออนไลน์
เว็บไซต์เป็นตัวตนออนไลน์ที่สามารถถูกค้นหาได้ผ่าน Search Engine ไม่ใช่เพียงหน้าโฮม แต่รวมถึงหน้าเพจต่างๆ มากมายที่เว็บไซต์มีอยู่ เว็บไซต์ไทยที่มีอายุเพียงแค่ 1 ปี ก็มีโอกาสที่จะมีคนคลิกมาจาก Google หลายแสนคลิกต่อเดือน
เว็บไซต์ที่ดีจึงเป็นเหมือนอสังหาริมทรัพย์ ยิ่งทำออกมาดี ยิ่งมีคอนเทนต์คุณภาพจำนวนมาก มูลค่าก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น
- การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ
การมีเว็บไซต์นั้นจะทำให้คุณเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้เป็นหมื่นๆ แพลตฟอร์ม หากเชื่อมได้อย่างชำนาญแล้ว ในบางหน้าที่สามารถทำเป็นระบบอัตโนมัติ (Automation) ได้
มองในแง่ Inbound Marketing คือการทำ Marketing Automation หรือ Sales Automation นั่นเอง เช่นคุณสามารถตั้งค่าไว้ได้ว่า เมื่อคนที่ติดตามคุณด้วยอีเมลนั้นเข้าไปในหน้า Sales Page (หน้าขายของของคุณ) แล้วไม่ซื้อ ระบบจะส่งอีเมลแบบอัตโนมัติเพื่อ Follow Up ติดตามผลหลังจากที่เขาเข้าไปหน้า Sales Page ของคุณ 1 วัน เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม: ทำไมต้องมีเว็บไซต์ ในเมื่อช่องทางอื่นๆ ก็ดีอยู่แล้ว
สรุป
เว็บไซต์เป็นสินทรัพย์บนโลกออนไลน์ที่คุณเป็นเจ้าของเอง เราสามารถใช้ช่องทางออนไลน์อื่นๆ เป็นสะพาน เป็นกระบอกเสียงมาสู่เว็บไซต์ และสามารถปรับแต่งและออกแบบเพื่อจุดประสงค์เฉพาะทางที่ตนเองต้องการได้ ข้อเสียคืออาจใช้ต้นทุนในการเริ่มต้นมากกว่าช่องทางออนไลน์สำเร็จรูปอื่นๆ และใช้เวลาบ่ม จึงจะเริ่มเห็นผล แต่ผู้เขียนเอง รวมถึงนักการตลาดสาย Inbound กว่า 68% ก็ยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของเว็บและ Inbound และยังคงอยากบอกต่อให้กับคนสายออนไลน์ทุกท่านให้ได้มาลองสัมผัสดูค่ะ
About the author: ‘Orn Smith’
อร เข้าสู่วงการเว็บมาสเตอร์ครั้งแรกจากการเป็นนักศึกษาคณะ ICT ที่ได้เข้าร่วมค่าย Young Webmaster Camp ปัจจุบันเป็นผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ Content Shifu เว็บคอนเทนต์แหล่งการเรียนรู้ทักษะด้านดิจิทัลที่หยิบจับนำไปใช้ได้จริง